ห้องครัวคือ หัวใจสำคัญของบ้าน

ห้องครัวคือ หัวใจสำคัญของบ้าน

หิวขึ้นมาทีไรก็ต้องเข้าครัวทุกที ฉะนั้นคงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่านอกจากรูปแบบของห้องครัวที่ดีและสวยงามแล้ว การออกแบบ การจัดวาง หรือการจัดการกับสิ่งของ เครื่องครัว และเครื่องใช้ภายในห้องครัวให้ถูกสุขลักษณะก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน

แม้ว่าปัจจุบัน หลายครอบครัวต้องการห้องครัวสมัยใหม่ พร้อมด้วยอุปกรณ์เครื่องครัวแบบใหม่ครบครัน เช่น เตาไฟฟ้า ตู้อบไฟฟ้า หม้อ กระทะ ฯลฯ แต่ไม่ต้องการใช้งานครัวหนักเหมือนสมัยก่อน ต้องการลดบทบาทที่แท้จริงของห้องครัวลงไป และไม่สะดวกกับการใช้งานครัวที่หนักอีกต่อไป ครัวมีไว้เพื่อความสวยงาม และเป็นเพียงห้องที่เอาไว้อุ่นอาหารให้ร้อนเพื่อพร้อมรับประทานเท่านั้น

แต่ก็ยังมีบ้านอีกจำนวนไม่น้อย ที่ต้องการครัวสมัยใหม่ที่ ดูหน้าตาดี สวย และต้องสะอาด พร้อมรับภาระหนัก ต้องทนกับความร้อน กลิ่นควัน คราบอาหาร คราบน้ำมันจากกระทะ ที่แม่บ้านแสดงฝีมือฝากไว้บนผนัง พื้น และเฟอร์นิเจอร์ห้องครัว เราจึงไม่ควรละเลยกับการจัดการสิ่งของ และอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องครัวเหล่านี้ให้ถูกสุขลักษณะอยู่เสมอ เพื่อสุขภาพที่ดีของสมาชิกทุกคนในบ้าน

การทำให้ห้องครัวเป็นห้องครัวสุขภาพดี ก็ต้องเริ่มต้นจากการออกแบบห้องครัวให้เหมาะกับลักษณะการใช้งาน และเลือกอุปกรณ์เครื่องครัว และการตกแต่งที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม รวมถึงการดูแลห้องครัวด้วยวิธีที่ปลอดภัย

1. ห้องครัว ควรเป็นห้องที่ได้รับการออกแบบให้ใช้งานได้สะดวก ครัวที่ดีควรได้รับการจัดสรรที่เก็บเครื่องทำครัว ให้เหมาะและเข้ากับลักษณะการใช้งาน หยิบฉวยได้ง่ายและสะดวก


2. การเลือกใช้วัสดุ สี ในการตกแต่งปรับเปลี่ยนโฉมผนัง พื้น เคาน์เตอร์ ตู้เก็บของ ให้มีคุณสมบัติทนทานต่อความร้อน ความชื้น ไม่ดูดซับกลิ่น คราบสกปรก ข้อสำคัญต้องเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งชุมนุมของมด แมลงสาบ รวมถึงเจ้าเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียที่จะนำมาซึ่งโรคทางเดินอาหาร


3. ควรมีการระบายอากาศที่ดีสามารถ เช็ดถูทำความสะอาดได้อย่างสะดวกหลังใช้งานอยู่เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมคราบมัน เขม่าที่เกิดจากควันไฟและความชื้นในห้องครัว เลือกใช้วัสดุเฟอร์นิเจอร์ในห้องครัวด้วยวัสดุที่มีพื้นผิวเรียบ ไม่ดูดซับเศษอาหารหรือเชื้อโรค เช่น วัสดุที่ทำจากสแตนเลส เป็นต้น


4. ควรออกแบบระบบไฟฟ้าที่ต้องใช้ในห้องครัวอย่างรัดกุมเพื่อการประกอบอาหารอย่างปลอดภัย เพราะในปัจจุบันมีเครื่องทุ่นแรงในการทำอาหารมากมาย ต้องใช้ปลักไฟจำนวนมากจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ควรตรวจสอบปลั๊กไฟให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ


5. เนื่องจากห้องครัวเป็นที่เก็บอาหาร จึงมักจะมีแมลงหรือสัตว์ที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ มากมาย จึงต้องมีที่เก็บอาหารที่มิดชิดและต้องมีการหาวิธีกำจัดแมลง และบรรดาสัตว์ที่ไม่พึงประสงค์เหล่านี้ห้องครัว จึงควรจะมีการกำจัดแมลงและสัตว์ต่าง ๆ นี้โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับสมาชิกในบ้าน ด้วยวิธีชีวภาพโดยการเอาสมุนไพรไทยมาช่วยในการไล่แมลง เช่น ตะไคร้หอม เป็นต้น


6. อ่างล้างจาน ผิวเคาน์เตอร์และเขียง เป็นที่เพาะพันธุ์แบคทีเรียชั้นดี ดังนั้นพยายามเลือกวัสดุที่มีพื้นผิวเรียบ ไม่ดูดซับเศษอาหารหรือเชื้อโรค เคาน์เตอร์ที่กรุด้วยกระเบื้องเซรามิกเคลือบมัน ทำความสะอาดง่าย เพราะแข็งแรงไม่เป็นรอยขีดข่วน แต่อย่าลืมระมัดระวังร่องระหว่างแผ่น ซึ่งอาจกลายเป็นที่สะสมคราบเศษอาหาร ควรยาแนวให้ดีหรือปูกระเบื้องให้ชิดกันมากที่สุด


7. ควรจะมีผ้าเช็ดทำความสะอาดใกล้มือเพื่อใช้เช็ดถูทำความสะอาดเคาน์เตอร์ได้บ่อยครั้ง หากเลือกใช้เคาน์เตอร์ไม้หรือเขียงไม้ จะต้องเช็ดถูหรือล้างทำความสะอาดทุกครั้งที่ใช้งานเสร็จ และที่สำคัญผ้าที่นำมาทำความสะอาดควรจะซัก และแช่ด้วยน้ำยาฆ่าเชื่อโรค และควรเปลี่ยนอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อที่จะได้ไม่กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค

การเลือกซื้ออุปกรณ์ใช้งานในครัว

- หลีกเลี่ยงประเภทพลาสติกลามิเนตผสมอะคริลิกหรือโพลีเอสเตอร์ซึ่งมีส่วนผสมของวัสดุที่มีพิษ

- หลีกเลี่ยง การใช้เฟอร์นิเจอร์ครัวที่ผลิตจากวัสดุไม้อัด ปาร์ติ เคิลบอร์ด ซึ่งกระบวนการผลิตต้องใช้กาวสังเคราะห์ที่ทำให้เกิดฟอร์มัลดีไฮด์ หรือถูกเคลือบผิวด้วยสารเคมีที่มีฟอร์มัลดีไฮด์เป็นส่วนประกอบ

- เลือกใช้เคาน์เตอร์ที่ทำด้วยไม้จริงและเคลือบผิวไม้ด้วยการทาสี หรือใช้ยูเรเทนสูตรน้ำหรือใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น แกรนิต สเตนเลสสตีลจะปลอดภัยกว่า



ข้อมูลเพิ่มเติมจาก hhttp://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=anotherside&month=01-2009&date=25&group=23&gblog=35
รูปภาพจาก http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2007/10/R5909385/R5909385.html

ห้องครัวที่ดี ออกแบบอย่างไร?

การออกแบบห้องครัวที่ดี

การออกแบบห้องครัวที่ดี ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้สอยในชีวิตประจำวันนั้น นอกจากจะสวยงามถูกใจสมาชิกในบ้านแล้ว ยังช่วยในเรื่องการเก็บ กวาด เช็ด ถู ทำความสะอาด รวมไปถึงการซ่อมแซมอุปกรณ์หรือสุขภัณฑ์ต่างๆ ภายในห้องครัว ก็จะมีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น เมื่อเกิดการชำรุดเสียหายอีกด้วย ทำให้ไม่ต้องเหนื่อยและเสียเวลาไปกับการดูแลห้องครัวให้สะอาดน่าใช้อยู่เสมอ ฉะนั้นเราควรต้องออกแบบห้องครัวให้ดี และเหมาะกับลักษณะการใช้งาน

ห้องครัวที่ดี ควรลดระดับต่ำกว่าส่วนอื่นของบ้านประมาณ 10 ซม. เพื่อเวลาทำความสะอาดพื้นหรือล้างพื้นห้อง น้ำจะได้ไม่ไหลเปรอะเปื้อนห้องอื่น และที่สำคัญอีกอย่างคือ ควรให้พื้นมีความลาดเอียงเล็กน้อยสำหรับการไหลของน้ำลงท่อระบายน้ำที่เตรียมไว้ พื้นห้องครัวควรปูด้วยวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย เช่น กระเบื้องเซรามิค หรือหินแกรนิต สำหรับผนังบางส่วนอาจบุกระเบื้องชนิดบุผนัง เนื่องจากมีผิวมันลื่น เช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนผนังที่เหลือก็ควรทาสีน้ำมัน หรือสีอะครีลิคกึ่งเงาแทนการใช้สีน้ำพลาสติคสำหรับทาภายในทั่วไป เนื่องจากจะคงทนกว่า และทำความสะอาดคราบเขม่า คราบควัน ที่เกิดจากการหุงต้มอาหารได้ดีกว่าสีน้ำมันทั่วไป

วิธีการวางเครื่องใช้ของครัวก็คือ วางตามวิธีการทำอาหารทั่วไป เช่น ก่อนอื่นต้องนำอาหารที่จะทำออกจากตู้เย็นมาพักไว้ที่เคาน์เตอร์ก่อน หลังจากจัดเตรียมเครื่องปรุง ส่วนผสมเรียบร้อยแล้ว ก็ปรุงอาหารด้วยเตาไฟหรือเตาอบ อาหารที่ปรุงเสร็จก็มาวางไว้ที่เคาน์เตอร์ เพื่อเสิร์ฟต่อไปอีกทีหนึ่ง ส่วนที่อยู่ถัดมาก็คือ อ่างล้างจาน เพื่อรับจานและช้อนที่ใช้แล้ว ถ้าเราจัดทุกอย่างให้ถูกต้องตามลำดับขั้น ก็จะทำให้การปรุงอาหารสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

การออกแบบห้องครัวที่ดี ให้เหมาะกับพื้นที่ใช้สอย แบ่งออกเป็น 4 แบบ คือ

1. แบบติดตั้งกับผนังด้านเดียว หรือที่เรียกว่า ครัวรูปตัวไอ เหมาะสำหรับห้องที่มีเนื้อที่จำกัด หรือมีพื้นที่ใช้สอยไม่มากนัก เช่น คอนโด หรือ ทาวน์เฮาส์
   
   
   


2. แบบผนังสองด้าน มีทางเดินตรงกลาง มีลักษณะคล้ายแบบแรก แต่ครัวลักษณะนี้ต้องมีพื้นที่ใหญ่ขึ้นกว่าแบบแรกสักหน่อย เพราะจะได้มีพื้นที่ทางเดินตรงกลางที่ดูไม่อึดอัดจนเกินไป เพื่อสะดวกในการใช้สอย และทำให้ไม่อึดอัดจนเกินไป
   
   
   


3. แบบตัวแอล ลักษณะนี้เป็นที่นิยมกันมาก เพราะสะดวกในการใช้งานและเป็นรูปแบบที่สามารถจัดวางอุปกรณ์ครัวต่างๆ ให้อยู่ในจุดที่ใช้งานได้สะดวก
   
   
   


4. แบบตัวยู เป็นแบบที่ดีที่สุด มีพื้นที่ใช้สอยได้มาก แต่ต้องมีพื้นที่ห้องครัวที่กว้างขวางพอสมควร จึงเหมาะกับบ้านหลังใหญ่ที่มีพื้นที่เยอะๆ เพราะต้องใช้ผนังถึง 3 ด้านในการวางชุดครัว ขอแนะนำให้มีเคาน์เตอร์ทำงานกลางห้อง เพราะจะช่วยเพิ่มพื้นที่ทำงานและที่เก็บของได้อีกมาก แต่ถ้าไม่ได้ออกแบบเคาน์เตอร์กลางห้องไว้แต่ต้น แค่เพิ่มโต๊ะไม้ตัวใหญ่มีลิ้นชักขึ้นมากลางห้องสักตัวก็สามารถทดแทนได้
   
   

นอกจากนี้ การออกแบบพื้นที่เก็บของใต้เคาน์เตอร์ครัวถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เพราะการทำครัวต้องใช้วัสดุอุปกรณ์หลายรูปแบบ ครัวที่ดีจะจัดสรรตำแหน่งจัดเก็บเครื่องมือทำครัวให้เข้ากับลักษณะการใช้งาน และใกล้เคียงกับบริเวณที่จะต้องถูกใช้งาน และควรติดตั้งชั้นเก็บของแบบหมุนออกที่ใต้เคาน์เตอร์ตำแหน่งหัวมุม เพื่อที่จะไม่ต้องก้มให้ปวดหลังทุกครั้งที่หยิบของ ของที่มีน้ำหนักมากควรเก็บไว้ในตู้ที่ติดตั้งรางเลื่อนดึงออกได้สุดความลึกตู้ ตู้เก็บเครื่องกระป๋องหรือของแห้งควรอยู่ใกล้ประตู เป็นต้น


ข้อมูลเพิ่มเติมจาก http://www.alinehomecare.com/Deta/RoomDesignDeta.htm
รูปภาพจาก http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2007/08/R5761120/R5761120.html

ห้องครัวแบบสมัยใหม่ - ห้องครัวทันสมัย (Modern Kitchen)

ความเป็นสังคมเมืองมากขึ้น ทำให้การเข้าครัวทำอาหารแบบไทยโบราณที่เป็นการทำครัวแบบหนักจำพวก โขลก ตำ สับ ผัด หรือทอดต่างๆ ที่ต้องใช้พื้นที่โล่ง โปร่ง เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้นั้น คงเป็นไปได้ยากสักหน่อยกับวัฒนธรรมทางสังคมที่เปลี่ยนไป ฉะนั้นการตกแต่งห้องครัวให้เป็นรูปแบบที่ทันสมัย (Modern Kitchen) มากขึ้น จึงมีบทบาทเป็นอย่างมากในปัจจุบัน

การตกแต่งห้องครัวไทยให้มีดีไซด์ที่ทันสมัยมากขึ้น อย่างที่เรียกกันว่า ครัวไทยสไตล์โมเดิร์น หรือห้องครัวไทยดีไซน์อินเตอร์ ด้วยการนำเอาความเป็นครัวฝรั่งเข้ามาผสมผสานจึงเป็นที่นิยมอย่างมากในยุคนี้ ห้องครัวปูน ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นิยมใช้กันเกือบทุกบ้าน มีทั้งแบบที่ให้ช่างปูนก่อเป็นครัวตามรูปแบบที่เจ้าของบ้านต้องการ พื้นผิวฉาบด้วยกระเบื้องซึ่งส่วนใหญ่จะออกในโทนที่สว่าง เช่น ขาว ครีม เพื่อให้ดูสะอาดตา หรือจะเลือกใช้โทนสีสดใสเพื่อเพิ่มสีสรรให้กลับห้องครัว ซึ่งจะเป็นในรูปแบบใดคงขึ้นอยู่กับความชอบของเจ้าของบ้านเป็นหลัก หรือถ้าต้องการความดิบของปูนก็สามารถปล่อยให้เป็นปูนเปือยแล้วขัดมัน ก็จะได้ความสวยงามไปอีกแบบ ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยหินธรรมชาติขัดมันจะช่วยให้ครัวไทยแบบเดิมดูทันสมัยมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีครัวปูนที่เป็นแบบสำเร็จรูปพร้อมประกอบ สำหรับท่านที่ยังไม่มีไอเดีย ซึ่งมีรูปแบบที่สวยงามให้ได้เลือกใช้แต่ส่วนใหญ่จะมีโทนสีให้เลือกไม่มากนัก จะเป็นโทนสีกลางๆ ที่สามารถใช้กับทุกพื้นที่ เช่น โทนสีน้ำตาล สีดำ สีเทา และสีขาว



รูปแบบการตกแต่ง ห้องครัวทันสมัย หรือ ห้องครัวสมัยใหม่ ที่เน้นความเป็น มินิมัลลิสม์(Minimalism) หรือการตกแต่งด้วย รูปทรง เส้นสาย ที่เรียบง่าย และตกแต่งด้วยข้าวของ น้อยชิ้นนั้น เหมาะกับบ้านที่มีเนื้อที่ไม่มากนัก เนื่องจากแนวคิดของการตกแต่งที่เน้นความเรียบง่าย โล่ง ช่วยให้บ้านพี้นที่จำกัดดูโปร่งสบาย ทั้งยังได้ ประโยชน์ใช้สอยที่เหมาะกับการดำเนินชีวิตประจำวัน วัสดุที่ใช้เน้นที่มีคุณภาพและดูแลรักษาง่าย อาทิ ไม้สีเข้ม สเตนเลส หินธรรมชาติขัดมัน โดยมีการ เน้นรายละเอียดในบางจุดด้วยหน้าบานที่ออกแบบเป็นพิเศษ โทนสีดำ น้ำตาล เทา และขาว ให้ความรู้สึกอบอุ่น หรูหรา สบายตา และน่าใช้ มีการกรุสเตนเลสที่ผนังในบริเวณที่ต้องใช้งานหนักและสกปรกง่าย รวมถึงการออกแบบครัวสมัยใหม่ที่เน้นการใช้สเตนเลสที่มีลวดลายร่วมกับวัสดุอื่นๆ ในโทนสีขรึมหรือสีเข้ม จะช่วยให้งานตกแต่งครัวดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น






ข้อมูลเพิ่มเติมจาก http://www.decorreport.com/?l=th&a=25708
รูปภาพจาก http://www.positioningmag.com/prnews/prnews.aspx?id=71681

รูปแบบของห้องครัว ห้องครัวสำเร็จรูป เลือกแบบไหนให้ใดนใจ!

ห้องครัว ถือได้ว่าเป็นห้องที่ถูกใช้งานมากที่สุดห้องหนึ่งในบ้าน ฉะนั้นรูปแบบของห้องครัวก็ถือเป็นสิ่งจำเป็น ที่จะสร้างความสุขให้กับสมาชิกทุกคนในบ้านด้วยเช่นเดียวกัน

ครัวที่ดี ควรมีการใช้งานครบถ้วน มีการจัดวางอย่างเป็นระเบียบเพื่อความสะดวกในการใช้งาน มีการจัดเก็บของอย่างเป็นสัดส่วน สะอาด ถูกสุขลักษณะ และควรเป็นบริเวณที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวได้มา ทำกิจกรรมร่วมกันอีกด้วย ดังนั้นการจัดแต่งห้องครัวจึงต้องคำนึงถึง ขนาดพื้นที่ ประโยชน์ใช้สอย ขอบเขตการใช้งาน รวมไปถึงความชอบของเจ้าของบ้าน และรูปแบบของบ้านด้วย สำหรับการตกแต่งห้องครัวมีหลายรูปแบบดังต่อไปนี้

ห้องครัวไทย (Thai Kitchen)

จุดเด่น คือ เป็นครัวที่สามารถใช้งานหนัก ทั้งตำ โขลก สับ ตามแบบฉบับอาหารไทย ดังนั้นจึงนิยมจัดครัวไทย แยกส่วนออกเอาไปต่างหากมาอยู่หลังบ้าน เพื่อไม่ให้มีกลิ่นและเสียงรบกวน ลักษณะอีกอย่างหนึ่งที่บอกถึงความเป็นครัวไทยคือ มีการก่อปูนหรือครัวปูน เพื่อรองรับการใช้งานหนัก อย่างไรก็ดี ปัจจุบันมีชุดครัวสำเร็จรูปที่ไม่ต้องก่ออิฐฉาบปูน เพียงแค่ใช้ตัวยึดตู้และโครงที่เป็นหลัก แล้วนำกระเบื้องมาตกแต่งลวดลายภายหลัง ซึ่งติดตั้งง่ายและใช้เวลาน้อย เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของครัวไทยที่ยังคงเอกลักษณ์ไว้ได้

ห้องครัวสมัยใหม่ (Modern Kitchen)

คำจำกัดความของ ครัวสมัยใหม่ คือครัวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทันสมัย เรียบง่าย อาจมีลูกเล่นบางอย่างที่โดดเด่นขึ้นมา โดยการใช้วัสดุตกแต่งที่แปลกตา ไม่ซ้ำใคร สำหรับรูปทรงของครัว นิยมนำรูปแบบของเส้นเรขาคณิตมาใช้ มีการจัดวางไม่วุ่นวายซับซ้อน นอกจากนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าก็เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของครัวสมัยใหม่ เช่น เตาไมโครเวฟ เตาอบ เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และเครื่องใช้อื่นๆ ซึ่งมีทั้งแบบที่แยกวางได้ตามความเหมาะสม และแบบฝังผนังที่ทั้งสวยทันสมัย ประหยัดพื้นที่ และยังช่วยให้การปรุงอาหารได้สะดวกและรวดเร็ว เหมาะกับผู้ที่อยู่อาศัยในเมือง ชอบการปรุงอาหารง่ายๆ เพียงแค่นำเข้าเตาอบ รอเวลาอาหารสุก พร้อมรับประทานหรือเสิร์ฟได้ทันที

ห้องครัวโชว์ (Living Kitchen)

ครัวโชว์ หรือที่เรียกกันว่า Living Kitchen รูปแบบนี้ไม่ใช่แค่ใช้งานครบถ้วน แต่ยังคงความสวยงามสามารถเป็นส่วนโชว์ของบ้านได้ โดยออกแบบให้เชื่อมต่อไปสู่ส่วนอื่นๆ ของบ้านได้อย่างต่อเนื่องและลงตัว ด้วยรูปแบบที่ไม่แตกต่างกันมากนัก ครัวโชว์จะเน้นความโปร่ง โล่ง ไม่ทึบ ดูอึดอัด ส่วนประกอบของครัวที่เห็นจะมีชั้นวางหรือส่วนตู้โชว์หรือเก็บของ เกาะกลางหรือโต๊ะแบบเพนินซูลา ที่สามารถเชื่อมโยงพื้นที่ให้ต่อเนื่องกัน และใช้เป็นส่วนรับประทานอาหารบริเวณเคาน์เตอร์ โดยมีเก้าอี้สตูลสูงที่ทันสมัย ซึ่งเหมาะสมกับ คอนโด หรือ คอนโดมิเนียม ที่มีเนื้อที่พอสมควร หรือบ้านที่มีเนื้อที่จำกัดซึ่งจำเป็นต้องมีการจัดวางพื้นที่ให้ต่อเนื่อง ไม่กั้นแบ่งห้อง และมีประโยชน์ใช้สอยได้มากที่สุด

ชุดห้องครัวกึ่งสำเร็จรูป และ ชุดห้องครัวสำเร็จรูป

ชุดห้องครัวสำเร็จรูป เหมาะกับห้องที่มีพื้นที่จำกัด เช่น คอนโด หรือ คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนท์ ทาวน์เฮาส์ขนาดเล็ก หรือบ้านขนาดเล็ก ส่วนชุดครัวกึ่งสำเร็จรูปสามารถปรับขนาดของชุดครัวได้ตามขนาดพื้นที่ สามารถติดตั้งได้ง่าย ซื้อหาสะดวก เพียงรู้ขนาดของพื้นที่ก็สามารถเลือกซื้อได้ตามความเหมาะสม โดยทั่วไปแล้วชุดครัวเหล่านี้มีสีสันให้เลือกจำกัด บางครั้งสีและรูปแบบหน้าบานที่ต้องการอาจมีให้เลือกเฉพาะรุ่นเฉพาะแบบ ดังนั้นการเลือกสีของชุดห้องครัวกึ่งสำเร็จรูป หรือ ชุดห้องครัวสำเร็จรูป ประเภทนี้ควรพิจารณาให้เหมาะสมกับสีสันโดยรวมของบ้าน

เมื่อได้ทราบถึงรูปแบบของห้องครัวในแบบต่างๆ ไปแล้ว ก็นำไปพิจารณาว่าแบบไหนที่เหมาะสมกับที่อยู่อาศัย, ไลฟ์สไตล์(Life style) รวมไปถึงความชอบของเจ้าของบ้าน เท่านี้สมาชิกทุกคนในบ้านก็จะมีความสุขกับการใช้ห้องครัวในทุกๆวัน


ข้อมูลเพิ่มเติมจาก http://www.decorreport.com/?l=th&a=345153